รีวิว ปริศนารูหลอน

รีวิว ปริศนารูหลอน

รีวิว ปริศนารูหลอน

รีวิว ปริศนารูหลอน เรื่องราวได้กล่าวถึง “พิม” (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ “พัท” (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในบ้านของตากับยายของทั้งสอง

เพราะเนื่องจากอุบัติเหตุที่ทำ “ใหม่” (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) แม่ของทั้งสองต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างกระทันหัน เมื่อทั้งสองพี่น้องได้มาถึงบ้านของคุณตาและคุณยาย

ทั้งสองก็รู้สึกแปลกๆ เนื่องบรรยากาศภายรอบของบ้านหลังนี้ และเมื่อสองพี่น้องได้เก้าเข้ามาในบ้าน ก็ได้พบกับรูปริศนา ที่ทั้งสองสงสัยและเมื่อส่องเข้าไปในรูนั่น ทั้งสองก็ได้พบกับปริศนาหลายอย่างในบ้านที่ทำให้พวกเขาต้องตามหาความจริงที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้

เป็นหนังไทย ทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้ อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับ"วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง" ที่เคยเป็นเจ้าพ่อกำกับหนังไทย ในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอคอยการกับมาขอเขา

เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไป และไปทำงานบริหารอยู่เบื้องหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนคลับหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ

ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่า วิศิษฏ์ จะช่วยกู้ความเชื่อใจได้ คอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่ จริงแล้ว วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจง่ายอีกคนหนึ่ง

เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียวมาในเรื่องนี้บทหนังเป็นฝีมือของ อภิเษก จิรธเนศวงศ์

ซึ่งเท่าที่ทราบคือไม่มีผลงานหนังยาวก่อนหน้า ให้พอเห็นฝีไม้ลายมือเลย และอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังมีผู้ร่วมเขียนบทหลายคนรวมถึงตัวผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ที่ต้องลงมาร่วมเขียนบทด้วย

ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นลักษณะทีมเขียนบทแต่แรก หรือการเข้ามาแก้ไขบทในภายหลังเพื่อแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดของหนังคือปัญหาของบท ที่ตั้งใจเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียและพยายามหลอกผู้ชมด้วยการหักมุมไปมา

แล้วทำให้คนดูตกตะลึงกับความจริงหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันสักด้านธีมของเรื่องหนังของวิศิษฏ์ในยุคหลังมีความจิกกัดสังคม และในเรื่องนี้ก็ว่าด้วยความจริงอาจมีหลายชั้น เปลี่ยนไปตามวัยของผู้มอง

และบางทีความจริงที่แท้ก็โป้ปดหลอกลวงและปรากฏแก่หน้าเรามาแต่แรกเพียงแต่เราไม่ได้สนใจจะมองเห็นมัน ซึ่งสาระนี้มีนัยของการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในบางแง่มุมอยู่ และใครที่ชอบค้นชอบคุ้ยคิดวิเคราะห์สัญญะในหนังน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ

ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงงานก่อนหน้าของวิศิษฏ์อย่าง ‘สิงสู่’ (2561) ที่ซ่อนข้อความแรง ๆ อยู่ไม่น้อยฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’

ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก

การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการ

โดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก ท่านสามารถติดตามข่าวหนังใหม่ก่อนใครได้ที่ nungreview.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *