“Hit Man นักฆ่าน่าหลอก” เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่สร้างจากเรื่องจริงของ “แกรี จอห์นสัน” ศาสตราจารย์สาขาปรัชญาที่ปลอมตัวเป็นนักฆ่ามืออาชีพเพื่อช่วยตำรวจจับกุมผู้ว่าจ้างฆ่า ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ และนำแสดงโดย เกลน พาวเวลล์ ในบทบาทของแกรี​s เนื้อเรื่องย่อ แกรี จอห์นสัน ศาสตราจารย์หนุ่มที่มีความรู้ด้านจิตวิทยา ถูกดึงเข้าร่วมปฏิบัติการลับของตำรวจ โดยให้เขาปลอมตัวเป็นนักฆ่ารับจ้างเพื่อจับกุมผู้ว่าจ้างฆ่า ในระหว่างปฏิบัติการ เขาได้พบกับแมร์ดิสัน หญิงสาวที่ต้องการจ้างวานฆ่าสามีของเธอ แต่แทนที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ แกรีกลับตกหลุมรักเธอ และต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและท้าทาย การแสดงและการกำกับ เกลน พาวเวลล์ ถ่ายทอดบทบาทของแกรีได้อย่างน่าประทับใจ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของตัวละครที่ต้องสวมบทบาทหลายชั้น เคมีระหว่างเขาและเอเดรีย อาร์โจนา ผู้รับบทแมร์ดิสัน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและน่าติดตาม การกำกับของริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในการเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาที่ลึกซึ้งและมีมิติ การตอบรับจากนักวิจารณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์ โดยได้รับคะแนน 97% จาก Rotten Tomatoes และ 95% จากผู้ชม นักวิจารณ์ยกย่องในด้านการเล่าเรื่องที่สนุกสนานและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ สรุป “Hit Man นักฆ่าน่าหลอก” เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานความตลกและโรแมนติกได้อย่างลงตัว ด้วยการแสดงที่น่าประทับใจและการกำกับที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้​ ตัวอย่างภาพยนตร์ หากคุณสนใจรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ สามารถดูได้ที่นี่:

“John Wick: Chapter 4” หรือ “จอห์น วิค แรงกว่านรก 4” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่กำกับโดย แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) และนำแสดงโดย คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) ในบทบาทของ จอห์น วิค นักฆ่าผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ภาพยนตร์ภาคนี้เข้าฉายเมื่อปี 2023 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์​ เรื่องย่อ หลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อน จอห์น วิค ยังคงต้องเผชิญกับการตามล่าจากสภาสูง (High Table) ที่ต้องการกำจัดเขาให้สิ้นซาก เพื่อหาทางหลุดพ้นจากการถูกตามล่าอย่างไม่รู้จบ จอห์นต้องเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งปารีส เบอร์ลิน และโอซาก้า เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ ๆ และหาทางยุติสงครามครั้งนี้ การแสดงและตัวละคร คีอานู รีฟส์ ยังคงถ่ายทอดบทบาทของ จอห์น วิค ได้อย่างยอดเยี่ยม แสดงถึงความมุ่งมั่นและความเหนื่อยล้าของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาคนี้ยังได้เพิ่มตัวละครใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เคน นักฆ่าตาบอดที่รับบทโดย ดอนนี่ เยน (Donnie Yen) และ มาร์กีย์ วินเซนต์ เดอ แกรมงต์ ผู้ทรงอิทธิพลจากสภาสูง รับบทโดย บิล สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård) การแสดงของนักแสดงเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและมิติให้กับเรื่องราว​ ฉากแอ็กชันและการกำกับ จุดเด่นของภาพยนตร์ภาคนี้คือฉากแอ็กชันที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและสร้างสรรค์ ผู้ชมจะได้สัมผัสกับฉากต่อสู้ที่ยาวนานและตื่นเต้นตลอดความยาวของภาพยนตร์กว่า 2 ชั่วโมง 49 นาที การใช้มุมกล้องและการจัดแสงที่สวยงามช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับฉากต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ในโรงแรมคอนติเนนทัลสาขาโอซาก้า หรือการไล่ล่าบนถนนในปารีส การตอบรับจากนักวิจารณ์และผู้ชม “John Wick: Chapter 4” ได้รับคำชมอย่างมากจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนความสดใหม่อยู่ที่ 94% และเว็บไซต์ IMDb ให้คะแนนเฉลี่ย 8.7/10 นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงว่าภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ ด้วยฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง​ สรุป “John Wick: Chapter 4” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นและการต่อสู้ที่ดุเดือด ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของคีอานู รีฟส์ และการกำกับที่พิถีพิถันของแชด สตาเฮลสกี ภาพยนตร์ภาคนี้สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้ชมได้อย่างเต็มที่ หากคุณสนใจรับชมตัวอย่างหนัง สามารถดูได้ที่นี่: 

​“Squad 36” หรือชื่อภาษาไทย “หน่วย 36 ตำรวจมือพระกาฬ” เป็นภาพยนตร์อาชญากรรม-สืบสวนจากฝรั่งเศสที่เปิดตัวในปี 2025 กำกับโดย โอลิเวอร์ มาร์ชาล (Olivier Marchal) และนำแสดงโดย วิคเตอร์ เบลมอนโด (Victor Belmondo) ในบทบาทของ อองตวน แซร์ดา (Antoine Cerda) เรื่องย่อ อองตวน แซร์ดา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝีมือดีประจำหน่วยสืบสวนสอบสวน ถูกย้ายไปยังหน่วยต่อต้านอาชญากรรมเนื่องจากปัญหาด้านวินัย หลังจากหายตัวไปนาน 6 เดือน เขากลับมาเมื่อพบว่าอดีตเพื่อนร่วมทีมสองคนถูกสังหาร และอีกคนหายตัวไปอย่างลึกลับ อองตวนจึงเริ่มสืบสวนเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งนำพาเขาไปสู่ความขัดแย้งและความลับภายในองค์กรตำรวจ ​entertainment.trueid.net การแสดงและบทภาพยนตร์ วิคเตอร์ เบลมอนโด ถ่ายทอดบทบาทของอองตวน แซร์ดา ได้อย่างน่าประทับใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นและความขัดแย้งภายในใจของตัวละครได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ว่าขาดความแปลกใหม่ และมีการเล่าเรื่องที่คาดเดาได้ง่า การกำกับและโปรดักชัน โอลิเวอร์ มาร์ชาล ผู้กำกับที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน นำประสบการณ์ส่วนตัวมาใช้ในการสร้างบรรยากาศที่สมจริงและเข้มข้นในภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม การเล่าเรื่องและจังหวะของภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ว่าขาดความน่าสนใจ และไม่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่อ การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากผู้ชมและนักวิจารณ์ บางคนชื่นชมการแสดงของนักแสดงหลักและบรรยากาศที่สมจริง แต่บางคนรู้สึกว่าการเล่าเรื่องขาดความน่าสนใจ และไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้ตลอดทั้งเรื่อง ​ สรุป “Squad 36” เป็นภาพยนตร์ที่มีศักยภาพในการนำเสนอเรื่องราวอาชญากรรมและการสืบสวนสอบสวน แต่ขาดความแปลกใหม่และการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แม้ว่าการแสดงของนักแสดงหลักจะน่าประทับใจ แต่การดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้ง่ายและขาดความตื่นเต้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้มากนัก

“Sniper: Assassin’s End” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่ออกฉายในปี 2020 กำกับโดย Kaare Andrews และเป็นภาคที่แปดในซีรีส์ “Sniper” นำแสดงโดย Chad Michael Collins, Tom Berenger และ Sayaka Akimoto​ เรื่องย่อ Brandon Beckett (Chad Michael Collins) สไนเปอร์หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีสังหารเจ้าหน้าที่ต่างประเทศในคืนก่อนการลงนามข้อตกลงการค้าสำคัญกับสหรัฐฯ หลังจากรอดพ้นจากความตายอย่างหวุดหวิด เขาตระหนักว่ามีปฏิบัติการลับดำมืดภายในรัฐบาล จึงร่วมมือกับบุคคลเดียวที่เขาไว้ใจได้ คือพ่อของเขา Thomas Beckett (Tom Berenger) ทั้งสองต้องหลบหนีจากการตามล่าของ CIA ทหารรับจ้างรัสเซีย และนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนจากยากูซ่าที่มีทักษะสไนเปอร์เทียบเท่าพวกเขา​ การแสดงและบทภาพยนตร์ Chad Michael Collins และ Tom Berenger กลับมารับบทนำในฐานะพ่อลูกสไนเปอร์ที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ การแสดงของทั้งสองยังคงรักษามาตรฐานได้ดี อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความแปลกใหม่และเต็มไปด้วยช่องโหว่ ผู้ชมบางคนรู้สึกว่าเรื่องราวขาดความสมเหตุสมผลและการพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ​ โปรดักชัน แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ “Sniper: Assassin’s End” ก็สามารถนำเสนอฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นได้ โดยเฉพาะฉากการเผชิญหน้าระหว่างสไนเปอร์ที่สร้างความตึงเครียดและความสนุกสนานให้กับผู้ชม​ การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่หลากหลาย ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes มีคะแนนวิจารณ์จากผู้ชมอยู่ที่ 33% ในขณะที่ IMDb ให้คะแนนเฉลี่ยที่ 5.4/10 ความคิดเห็นจากผู้ชมบางส่วนระบุว่าภาพยนตร์มีเนื้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลและการแสดงที่ไม่น่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม บางคนมองว่าภาพยนตร์ยังคงมีความบันเทิงในแง่ของฉากแอ็กชัน​ สรุป “Sniper: Assassin’s End” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์ “Sniper” และต้องการติดตามเรื่องราวของตัวละครหลักต่อไป แม้ว่าเนื้อหาและบทภาพยนตร์อาจไม่โดดเด่น แต่ฉากแอ็กชันและการเผชิญหน้าระหว่างสไนเปอร์ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้ ​

“The Super Mario Bros. Movie” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่เปิดตัวในปี 2023 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเกมยอดนิยมของ Nintendo ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอการผจญภัยของมาริโอและลุยจิในอาณาจักรเห็ด เพื่อปกป้องดินแดนจากวายร้ายอย่างบาวเซอร์​ เรื่องย่อ มาริโอและลุยจิ สองช่างประปาจากบรู๊คลิน ถูกพัดพาเข้าสู่อาณาจักรเห็ด ที่นั่นพวกเขาได้พบกับเจ้าหญิงพีชและโท้ด และต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งบาวเซอร์จากแผนการยึดครองโลก​ การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes มีคะแนนวิจารณ์อยู่ที่ 59% จากนักวิจารณ์ 285 คน แต่ได้รับคะแนนจากผู้ชมทั่วไปสูงถึง 96% ผู้ชมหลายคนชื่นชมการนำเสนอที่ตรงกับเกมต้นฉบับและความสนุกสนานของเรื่องราว อย่างไรก็ตาม บางคนรู้สึกว่าเนื้อหาอาจเหมาะสำหรับเด็กมากกว่า ​Wikipedia คะแนนจาก IMDb ณ วันที่ 2 มีนาคม 2025 ภาพยนตร์ได้รับคะแนนจากผู้ชมบนเว็บไซต์ IMDb ที่ 7.1/10​ สรุป “The Super Mario Bros. Movie” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอการผจญภัยของมาริโอและลุยจิในรูปแบบแอนิเมชันที่สดใส แม้ว่าเนื้อหาอาจไม่ซับซ้อน แต่ก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมทุกวัย โดยเฉพาะแฟน ๆ ของเกมต้นฉบับ

“AKA” หรือในชื่อไทย “เจ้าหน้าที่เงา” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันจากฝรั่งเศสที่เปิดตัวในปี 2023 บนแพลตฟอร์ม Netflix กำกับโดย มอร์แกน เอส. ดาลิเบิร์ต และนำแสดงโดย อัลบัน เลอนัวร์ ในบท อดอง ฟรังโก้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นอันดับ 1 ใน Netflix ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย เรื่องย่อ อดอง ฟรังโก้ (อัลบัน เลอนัวร์) เป็นสายลับหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ได้รับมอบหมายให้แฝงตัวเข้าไปในแก๊งอาชญากรรมของ วิคเตอร์ ปัสเตอร์ (เอริก ก็องโตนา) เพื่อสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับการก่อการร้าย ระหว่างปฏิบัติภารกิจ อดองกลับเกิดความผูกพันกับ โจนาธาน ลูกชายของวิคเตอร์ ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในใจระหว่างหน้าที่และความรู้สึกส่วนตัว การแสดงและการกำกับ อัลบัน เลอนัวร์ ซึ่งมีพื้นฐานเป็นสตันท์แมน ได้แสดงบทบาทของอดอง ฟรังโก้ ได้อย่างน่าประทับใจ โดยสามารถถ่ายทอดความเข้มแข็งและความอ่อนไหวของตัวละครได้อย่างลงตัว การกำกับของมอร์แกน เอส. ดาลิเบิร์ต ทำให้ภาพยนตร์มีความตึงเครียดและน่าติดตาม โดยเฉพาะฉากแอ็กชันที่ออกแบบมาอย่างดี การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ “AKA” ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม โดยมีคะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ IMDb ที่ 6.7/10 IMDb นักวิจารณ์ชื่นชมการผสมผสานระหว่างฉากแอ็กชันและดราม่าที่ลงตัว แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะไม่แปลกใหม่มากนัก แต่การนำเสนอและการแสดงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่น สรุป “AKA” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่มีความเข้มข้นและสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในจิตใจของตัวละครหลัก ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและการกำกับที่มีคุณภาพ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้คุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็กชันที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง

“The Shawshank Redemption” หรือในชื่อไทย “มิตรภาพ ความหวัง ความรอด” เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่ออกฉายในปี 1994 กำกับโดย แฟรงก์ ดาราบอนต์ ดัดแปลงจากนวนิยายของ สตีเฟน คิง แม้ว่าในช่วงแรกที่ออกฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ต่อมาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล เรื่องย่อ แอนดี้ ดูเฟรนส์ (ทิม ร็อบบินส์) นายธนาคารที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมภรรยาและชู้รักของเธอ แม้ว่าเขาจะยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ที่คุกชอว์แชงค์ เขาได้พบกับ เอลลิส “เรด” เรดดิง (มอร์แกน ฟรีแมน) นักโทษที่มีความสามารถในการจัดหาสิ่งของต่าง ๆ ทั้งสองพัฒนามิตรภาพที่ลึกซึ้ง แอนดี้ใช้ความรู้ด้านการเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่คุก และวางแผนหาทางออกจากคุกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม การแสดงและการกำกับ การแสดงของทิม ร็อบบินส์ และมอร์แกน ฟรีแมน ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะฟรีแมนที่สามารถถ่ายทอดบทบาทของเรดได้อย่างลึกซึ้งและน่าประทับใจ การกำกับของแฟรงก์ ดาราบอนต์ สามารถสร้างบรรยากาศที่เข้มข้นและสะท้อนถึงความหวังและมิตรภาพในสถานที่ที่มืดมน การตอบรับและความนิยม แม้ว่าในช่วงแรกภาพยนตร์จะไม่ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่ต่อมาได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 สาขา และปัจจุบันได้รับคะแนนจากผู้ชมบนเว็บไซต์ IMDb สูงถึง 9.3/10 IMDb สรุป “The Shawshank Redemption” เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงความหวัง มิตรภาพ และความมุ่งมั่นในการเอาชนะอุปสรรค ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นที่รักและยกย่องจากผู้ชมทั่วโลก